เหตุใด UFA CASINO ถึงเป็นที่นิยม บทความนี้มีคำตอบให้คุณ
UFA คาสิโนออนไลน์มีเกมอะไรบ้าง
บาคาร่า (Baccarat) เป็นเกมไพ่ที่เล่นกันใน UFA คาสิโนออนไลน์ โดยมีการเทียบไพ่กันระหว่างผู้เล่นสองฝ่ายคือ “ผู้เล่น” และ “แบงเกอร์” แต่ละกู (“รอบการเล่น”) จะมีผลสามแบบ คือ “ผู้เล่น” (ผู้เล่นได้คะแนนสูงกว่า), “แบงเกอร์” และ “เสมอ”
กติกาการเล่น
ไพ่แต่ละใบมีค่าแต้มตามนี้:
- ไพ่ A มีค่า 1 แต้ม
- ไพ่ 2-9 มีค่าตามตัวเลขบนหน้าไพ่
- ไพ่ 10, J, Q, K มีค่า 0 แต้ม
- ผู้เล่นและแบงเกอร์จะได้รับไพ่คนละ 2 ใบ
- เป้าหมายของเกมคือการได้ไพ่ที่มีแต้มรวมใกล้เคียงกับ 9 มากที่สุด
- แต้มรวมของไพ่เกิน 9 จะตัดเลขตัวหน้าออก เช่น 12 คะแนน จะเหลือ 2 คะแนน
- กรณีผู้เล่นหรือแบงเกอร์มีแต้ม 8 หรือ 9 ตั้งแต่แรก (เรียกว่า Natural) จะไม่ต้องจั่วไพ่เพิ่ม
- กรณีผู้เล่นหรือแบงเกอร์มีแต้มน้อยกว่า 8 จะมีการจั่วไพ่เพิ่มตามกฎที่กำหนด
ผู้เล่นสามารถเลือกวางเดิมพันได้ 3 แบบ คือ
- เดิมพันว่า “ผู้เล่น” ชนะ
- เดิมพันว่า “แบงเกอร์” ชนะ
- เดิมพันว่า “เสมอ”
อัตราจ่ายมีกี่ประเภท
- เดิมพันฝั่งผู้เล่น (Player Bet)
- อัตราจ่าย 1 : 1
- หมายความว่า แทง 100 บาท ได้ 100 บาท
- โอกาสชนะประมาณ 44.62%
- เจ้าบ้านได้เปรียบ 1.24%
- เดิมพันฝั่งเจ้ามือ (Banker Bet)
- อัตราจ่าย 1 : 0.95
- หมายความว่า แทง 100 บาท ได้ 95 บาท
- โอกาสชนะประมาณ 49.32%
- เจ้าบ้านได้เปรียบ 1.06%
- เดิมพันเสมอ (Tie Bet)
- อัตราจ่าย 8 : 1
- หมายความว่า แทง 100 บาท ได้ 800 บาท
- โอกาสชนะประมาณ 9.56%
- บ้านได้เปรียบ 14.36%
บาคาร่า อัตราจ่าย ไพ่คู่
ไพ่คู่ในบาคาร่า หมายถึง ฝั่งผู้เล่น (Player) หรือ ฝั่งเจ้ามือ (Banker) ได้ไพ่ 2 ใบแรกเหมือนกัน ตัวอย่างเช่น ได้ไพ่ 2 กับ 2 หรือไพ่ 8 กับ 8
อัตราจ่ายไพ่คู่ในบาคาร่า
- ไพ่คู่ฝั่งผู้เล่น (Player Pair) อัตราจ่าย 11 : 1
- ไพ่คู่ฝั่งเจ้ามือ (Banker Pair) อัตราจ่าย 11 : 1
บาคาร่า อัตราจ่าย ลักกี้ซิก
ลักกี้ซิก (Lucky Six) เป็นรูปแบบการเดิมพันเสริมในบาคาร่า โดยผู้เล่นแทงว่า ผลรวมแต้มของไพ่ฝั่งผู้เล่น (Player) หรือ ฝั่งเจ้ามือ (Banker) จะเป็น 6
อัตราจ่ายลักกี้ซิก
- ลักกี้ซิก ฝั่งผู้เล่น (Player Lucky Six) อัตราจ่าย 12 : 1
- ลักกี้ซิก ฝั่งเจ้ามือ (Banker Lucky Six) อัตราจ่าย 12 : 1
ตัวอย่าง
- ฝั่งผู้เล่นได้ไพ่ 3 กับ 3 ผลรวมแต้มคือ 6 ผู้เล่นแทงลักกี้ซิกฝั่งผู้เล่น ชนะ
- ฝั่งเจ้ามือได้ไพ่ 9 กับ 7 ผลรวมแต้มคือ 16 ตัดเลขตัวหน้า เหลือ 6 ผู้เล่นแทงลักกี้ซิกฝั่งเจ้ามือ ชนะ
รูเล็ต (Roulette)
วิธีการเดิมพัน รูเล็ต (Roulette)
การเดิมพันในเกมรูเล็ตสามารถทำได้หลายแบบ ทั้งการเดิมพันภายในและภายนอก ซึ่งแต่ละแบบมีโอกาสชนะและอัตราการจ่ายที่แตกต่างกัน:
เดิมพันภายใน (Inside Bets)
- Straight (เดิมพัน 1 หมายเลข): จ่าย 35-1 คือแทงหนึ่งหมายเลขและหากชนะจะได้รับเงินพนันคืนพร้อมกับเงินรางวัลอีก 35 เท่า
- Split (เดิมพัน 2 หมายเลข): จ่าย 17-1 คือการวางชิประหว่างสองหมายเลขที่ติดกันบนตารางเดิมพัน
- Street (เดิมพัน 3 หมายเลข): จ่าย 11-1 คือการเดิมพันต่อแถว สามารถวางชิปที่จุดสิ้นสุดของแถวใดก็ได้
- Square หรือ Corner (เดิมพัน 4 หมายเลข): จ่าย 8-1 เป็นการเดิมพันที่มุมที่สี่หมายเลขตัดกัน
- Six Line (เดิมพัน 6 หมายเลข): จ่าย 5-1 คือการวางชิปที่จุดตัดของสองแถวที่ติดกัน
เดิมพันภายนอก (Outside Bets)
- Colours (เดิมพันสี): จ่าย 1:1 เดิมพันว่าหมายเลขที่ออกจะเป็นสีแดงหรือสีดำ
- Dozens (เดิมพันช่วง): จ่าย 2:1 เดิมพันว่าหมายเลขที่ออกจะอยู่ในช่วง 1-12, 13-24 หรือ 25-36
- Highs / Lows (เดิมพันสูง/ต่ำ): จ่าย 1:1 เดิมพันว่าหมายเลขจะอยู่ในช่วงต่ำ (1-18) หรือสูง (19-36)
- Odds/Evens (เดิมพันคู่/คี่): จ่าย 1:1 เดิมพันว่าหมายเลขที่ออกจะเป็นแบบคู่หรือคี่
- Columns (เดิมพันคอลัมน์): จ่าย 2:1 เดิมพันว่าหมายเลขที่ออกจะอยู่ในคอลัมน์ใดคอลัมน์หนึ่งบนตารางเดิมพัน
การเลือกโต๊ะรูเล็ต
เมื่อเลือกเดิมพันในรูเล็ต คู่แข่งอย่างยุโรปรูเล็ตหรืออเมริกันรูเล็ตสามารถมีผลกับโอกาสในการชนะ เนื่องจากอเมริกันรูเล็ตมีช่อง ’00’ ซึ่งเพิ่มความได้เปรียบของคาสิโน ดังนั้นการเลือกเล่นยุโรปรูเล็ตที่มีช่องเดียวคือ ‘0’ จะให้โอกาสชนะที่ดีกว่า
เมื่อคุณเข้าใจผลกำไรและโอกาสของแต่ละเดิมพันแล้ว คุณควรตั้งงบประมาณสำหรับเดิมพันและมีแผนการเล่นที่ชัดเจน เลือกเดิมพันที่เหมาะสมกับสไตล์การเล่นของคุณ และไม่ลืมว่าต้องยึดมั่นในกลยุทธ์ที่คุณได้วางไว้
อัตราจ่ายมีกี่ประเภท รูเล็ต (Roulette)
ในเกมรูเล็ต (Roulette) มีอัตราจ่ายหลายประเภทที่แตกต่างกันซึ่งขึ้นอยู่กับประเภทของการเดิมพันที่คุณเลือกทำ
อัตราจ่ายภายนอก (Outside Bets)
- การเดิมพันภายนอกจะเสนอโอกาสชนะที่สูงกว่าแต่อัตราจ่ายจะต่ำกว่า เช่นการเดิมพันสี (แดงหรือดำ), คู่หรือคี่, สูงหรือต่ำ ซึ่งมีอัตราจ่าย 1 ต่อ 1
- การเดิมพันที่เรียกว่า ‘คอลัมน์’ และ ‘ดาร์เซน’ (เดิมพันตัวเลข 1 ถึง 12, 13 ถึง 24, หรือ 25 ถึง 36) มีอัตราจ่าย 2 ต่อ 1
- อัตราจ่ายสำหรับการเดิมพันเหล่านี้มีความแตกต่างเล็กน้อยระหว่างรูเล็ตแบบยุโรปและอเมริกัน
อัตราจ่ายภายใน (Inside Bets)
- การเดิมพันภายในจะเสนออัตราจ่ายที่สูงกว่าแต่โอกาสชนะจะต่ำกว่าเช่นการเดิมพันเดี่ยวมีอัตราจ่ายสูงถึง 35 ต่อ 1
- การเดิมพันคู่ (สปลิท) มีอัตราจ่าย 17 ต่อ 1และการเดิมพันมุม (จ่ายที่ 8 ต่อ 1)
นอกจากนี้ยังมีโอกาสเดิมพันแบบอื่นๆ เช่นการเดิมพัน ‘สตรีท’ ที่เดิมพัน 3 หมายเลขเรียงกันในแนวตั้งบนโต๊ะ ซึ่งทำให้คุณมีอัตราจ่ายที่ 11 ต่อ 1 หรือการเดิมพัน ‘สี่เหลี่ยม’ ที่เดิมพัน 4 หมายเลขที่มุมต่อกัน ที่มีอัตราจ่ายที่ 8 ต่อ 1
และการเดิมพัน ‘ไลน์’ ที่คุณเดิมพัน 6 หมายเลขที่อยู่ในสองแถวติดกันซึ่งมีอัตราจ่าย 5 ต่อ 1
เสือมังกร (Tiger-Dragon)
วิธีการเดิมพัน เสือมังกร (Tiger-Dragon)
วิธีการเดิมพันในเกมเสือมังกร (Dragon Tiger) เป็นเกมที่มีกติการเล่นที่ง่ายและเร็ว ใช้ไพ่เพียงสองใบคือ Dragon และ Tiger ผู้เล่นเพียงแค่วางเดิมพันว่าฝั่งไหนจะมีแต้มสูงกว่ากัน
กติกาการเดิมพัน
- Dragon/Tiger: ผู้เล่นวางเดิมพันว่าฝั่ง Dragon หรือ Tiger จะชนะ หากฝ่ายที่เลือกได้ไพ่ที่มีแต้มสูงกว่าจะเป็นผู้ชนะ การจ่ายเงินจะอยู่ที่ 1:1
- Tie: ผู้เล่นวางเดิมพันว่าทั้งฝั่ง Dragon และ Tiger จะมีไพ่ที่มีแต้มเท่ากัน การจ่ายเงินสำหรับ Tie นี้สามารถตั้งแต่ 8:1 ขึ้นไป
- Big/Small: ผู้เล่นสามารถเลือกว่าไพ่ของฝั่ง Dragon หรือ Tiger จะจัดอยู่ในกลุ่ม Big (มากกว่า 7) หรือ Small (น้อยกว่า 7) หากได้ไพ่ที่เป็น 7 แทนที่จะชนะ จะถือว่าแพ้การเดิมพันในทันที
- Red/Black: การเดิมพันว่าไพ่ที่จะออกมาจะเป็นสีแดงหรือสีดำ
- Odd/Even: การวางเดิมพันว่าไพ่ของ Dragon หรือ Tiger จะเป็นจำนวนคี่ (Odd) หรือคู่ (Even)
- Suit: ผู้เล่นสามารถเดาสีของไพ่ หากถูกจะได้รับการจ่ายที่ 3:1 แต่ถ้าได้ไพ่เป็นหมายเลข 7 จะเสียเดิมพันโดยอัตโนมัติ
เทคนิคการเดิมพัน
- การเลือกเดิมพันฝั่ง : แนะนำให้เลือกเดิมพันฝั่ง Dragon หรือ Tiger เนื่องจากมี House Edge ต่ำที่สุด ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 3.73%
- การจับจังหวะเกม: สังเกตรูปแบบหรือลักษณะของไพ่ที่ออกมา เพื่อดูแนวโน้มและวัดโอกาสในการเดิมพันในรอบถัดไป
- หลีกเลี่ยงการเดิมพัน Tie: การเดิมพันช่อง Tie มี House Edge ที่สูงอย่างมาก ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงหากไม่จำเป็น
อัตราจ่ายมีกี่ประเภท เสือมังกร (Tiger-Dragon)
อัตราจ่ายในเกมเสือมังกร
- เกมเสือมังกร (Tiger-Dragon) เป็นเกมไพ่ที่มีความเรียบง่ายและเร็วในการเล่น มีอัตราจ่ายที่หลากหลาย ซึ่งพื้นฐานแล้วมีอัตราจ่ายหลัก 3 ประเภทคือ
- แทงฝั่งมังกรหรือเสือ (Dragon/Tiger): อัตราจ่ายเป็น 1:1 หมายความว่าหากคุณชนะ จะได้รับเงินคูณสองของเงินเดิมพัน
- แทงเสมอ (Tie bet): หากการเดิมพันจบลงด้วยค่าแต้มของไพ่ที่เท่ากันระหว่างทั้งสองฝ่าย อัตราจ่ายจะอยู่ที่ประมาณ 8:1 ถึง 11:1 ตามคาสิโนหรือกติกาเฉพาะที่ใช้
- แทงเสมอแบบไพ่เหมือนกัน (Suited Tie): ถ้าไพ่ที่เปิดออกมีค่าเท่ากันและเป็นไพ่ชุดเดียวกัน อัตราจ่ายสามารถสูงถึง 50:1
นอกจากนี้ยังมีการเดิมพันข้างที่เรียกว่า “Side Bet” ซึ่งมีอัตราจ่ายและกติกาที่หลากหลายตามคาสิโนแต่ละแห่ง
คำแนะนำในการเดิมพัน
เมื่อคุณวางเดิมพันในเกมเสือมังกร ควรพิจารณาจากอัตราจ่ายและโอกาสในการชนะ เพื่อให้การเดิมพันของคุณมีประสิทธิภาพ:
- แทงฝั่งมังกรหรือเสือ: แนะนำให้วางเดิมพันในแบบนี้โดยส่วนใหญ่ เนื่องจากมีอัตราการชนะสูงและมี RTP ที่ดี
- หลีกเลี่ยงการแทงเสมอ: แม้จะมีอัตราจ่ายที่ดูน่าสนใจ แต่การแทงเสมอมีโอกาสชนะที่ต่ำและคาดหวังค่า RTP ที่ไม่ดีเท่าที่ควร
- ใช้โบนัสจากคาสิโน: หากคาสิโนมีโบนัสพิเศษสำหรับการเล่นเกมเสือมังกร ในบางครั้งอาจช่วยเพิ่มโอกาสในการชนะให้ดีขึ้น
โป๊กเกอร์ (Poker)
วิธีการเดิมพัน เสือมังกร (Tiger-Dragon)
เกมไพ่เสือมังกร (Dragon Tiger) เป็นเกมที่เล่นง่ายและตัดสินอย่างรวดเร็ว โดยจะเล่นด้วยไพ่เพียงสองใบคือ ‘เสือ’ และ ‘มังกร’
ต่อไปนี้คือขั้นตอนและรายละเอียดในการเดิมพัน:
- เลือกเดิมพัน: ผู้เล่นวางเดิมพันบนหนึ่งในสามตัวเลือกนี้ มังกร (Dragon), เสือ (Tiger) หรือเสมอ (Tie)
- ยืนยันการวางเดิมพัน: หลังจากเลือกการเดิมพันได้แล้ว ให้กดยืนยันการเดิมพันภายในเวลาที่กำหนด
อัตราการจ่ายเงินของการเดิมพันแต่ละประเภท
- แทงมังกรหรือเสือ: หากชนะจะได้รับเงินรางวัลในอัตรา 1:1
- แทงเสมอ: หากชนะจะได้รับเงินรางวัลในอัตราที่สูงขึ้น เช่น 8:1 หรือบางครั้งอาจเป็น 11:1
- ในกรณีที่ผลออกเสมอ และคุณเดิมพันที่มังกรหรือเสือ คุณจะเสียเดิมพันเพียงครึ่งเดียว
นอกจากนี้ยังมีการเดิมพันประเภทอื่น เช่น ค่อมตัว (Suited Tie) ที่จ่ายสูงถึง 50:1
และยังมีตัวเลือกในการเดิมพันอื่นๆ เช่น ใหญ่/เล็ก (Big/Small), คี่/คู่ (Odd/Even), แดง/ดำ (Red/Black) แต่ไม่ทุกรายการเดิมพันประเภทนี้จะมีให้ทุกโต๊ะ
คำแนะนำในการเดิมพัน
- หลีกเลี่ยงการเดิมพันเสมอ: แม้ว่าการจ่ายเงินจะสูง แต่มีโอกาสชนะน้อย
- เลือกเดิมพันแบบมังกรหรือเสือ: อัตราการจ่ายน้อยกว่า แต่มีโอกาสชนะมากกว่า
- การจัดการเงินทุน: กำหนดงบประมาณ และไม่ควรเดิมพันมากกว่าที่คุณสามารถเสียได้
อัตราจ่ายมีกี่ประเภท เสือมังกร (Tiger-Dragon)
อัตราจ่ายในเกมเสือมังกร
เกมเสือมังกร (Tiger-Dragon) เป็นเกมที่มีรูปแบบการจ่ายที่ค่อนข้างตรงไปตรงมาและให้อัตราจ่ายที่แตกต่างกันไปตามประเภทของการเดิมพันที่คุณทำ
ดังนี้:
การเดิมพันฝั่งเสือหรือมังกร (Dragon/Tiger): เมื่อคุณเดิมพันที่ชนะที่ฝั่งเสือหรือมังกร เงินที่คุณจะได้รับจะเป็น 1:1 หมายความว่า หากคุณเดิมพัน 100 บาทและชนะ คุณจะได้เงินคืน 200 บาท รวมทุนที่คุณเดิมพันด้วยเอาไว้
นอกจากนี้ยังมีอัตราจ่ายเท่ากัน 1:1 สำหรับการเดิมพันที่ฝั่งมังกรหรือเสือชนะ
การเดิมพันแบบเสมอ (Tie): หากการเดิมพันของคุณคือเสมอและผลของการจั่วไพ่ในทั้งสองฝั่งเป็นแต้มเท่ากัน เงินที่คุณจะได้รับจะมีอัตราจ่ายสูงถึง 8:1 หรือ 11:1 ขึ้นอยู่กับคาสิโนที่คุณเล่น ซึ่งหมายถึงหากคุณเดิมพัน 100 บาท คุณอาจได้รับเงินรางวัลสูงสุดที่ 1,100 บาท
เดิมพันอื่นๆ และ Side Bets: มีการเดิมพันแบบพิเศษหรือ Side Bets ที่คาสิโนต่างๆ อาจนำเสนอ เช่น Big/Small, Odd/Even และ Red/Black ซึ่งเป็นการเดิมพันที่ตัดสินจากลักษณะของไพ่ที่จะออกมา แต่ละแบบมีอัตราจ่ายที่ 1:1 และ Suited Tie ที่มีอัตราจ่ายสูงถึง 50:1 หากทายถูกซึ่งอาจมีอัตราจ่ายที่แตกต่างกันออกไปตามคาสิโนหรือผู้ให้บริการอีกด้วย
แบล็คแจ็ค (Blackjack)
วิธีการเดิมพัน แบล็คแจ็ค (Blackjack)
การเดิมพันในเกมแบล็คแจ็คเริ่มจากผู้เล่นทั้งหมดวางเดิมพันก่อนที่จะแจกไพ่
ซึ่งขั้นตอนและวิธีการเดิมพันมีดังนี้:
เข้าสู่เกมและเริ่มวางเดิมพัน
เริ่มจากการเลือกมูลค่าชิพและวางเดิมพันที่ตำแหน่งการเล่นของคุณ หลังจากวางเดิมพันแล้วจึงคลิกปุ่ม ‘Deal’ หรือเหมือนกับที่ถือไพ่เมื่อเล่นจริงในคาสิโน
รับไพ่และตัดสินใจการเดิมพันต่อ
ผู้เล่นและเจ้ามือจะได้รับไพ่ โดยผู้เล่นจะเห็นไพ่ของตนเองทั้งสองใบ ส่วนเจ้ามือจะมีไพ่หงายหนึ่งใบและอีกใบคว่ำ ผู้เล่นจะต้องตัดสินว่าจะจั่วไพ่ (Hit), ยืน (Stand), หรือเพิ่มเงินเดิมพันสองเท่า (Double Down) ตามสถานการณ์ของเกม
ทำตามกลยุทธ์เพื่อเพิ่มโอกาสชนะ
มีกลยุทธ์หลายประการที่จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ดีขึ้น เช่น การใช้ชาร์ทกลยุทธ์ที่กำหนดการตัดสินใจในแต่ละสถานการณ์ เช่น ถ้าคุณมีแต้ม 12-16 และเจ้ามือมีแต้ม 2-6 เราควรยืน แต่ถ้าเจ้ามือมีแต้ม 7-Ace เราควรจั่ว
การจั่วไพ่หรือยืน
คุณสามารถขอไพ่เพิ่ม (Hit) หรือยืน (Stand) กับไพ่ที่มีอยู่ การจั่วต่อเมื่อมีแต้มน้อยกว่า 21 และยืนเมื่อคุณพอใจกับไพ่ที่มี
ดับเบิ้ล (Double Down) และการแยกไพ่ (Split)
คุณสามารถเพิ่มเงินเดิมพันเป็นสองเท่าของเงินเดิมพันเดิมและรับไพ่เพียงหนึ่งใบเมื่อคุณมีไพ่ที่ต้องการดับเบิ้ล นอกจากนี้ เมื่อได้ไพ่สองใบที่มีค่าเท่ากัน คุณสามารถแยกไพ่นั้นเพื่อเล่นเป็นสองมือแยกกันได้
อัตราจ่ายมีกี่ประเภท แบล็คแจ็ค (Blackjack)
เกมแบล็คแจ็คมีอัตราการจ่ายที่หลากหลายขึ้นอยู่กับประเภทของเกมและกฎของโต๊ะที่คุณเลือกเล่นด้วย สิ่งสำคัญคือคุณต้องทราบอัตราการจ่ายเหล่านั้นเพื่อที่จะเลือกโต๊ะที่ให้ความได้เปรียบกับคุณมากที่สุด
นี่คือประเภทอัตราจ่ายที่พบได้บ่อยในเกมแบล็คแจ็ค
- อัตราการจ่ายมาตรฐาน – การได้แบล็คแจ็คทั่วไปจะจ่ายที่อัตรา 3:2 ซึ่งหมายถึงหากคุณวางเดิมพัน 100 บาทและชนะด้วยแบล็คแจ็ค คุณจะได้รับเงินรางวัล 150 บาทพร้อมกับเงินต้นทุนของคุณ
- อัตราการจ่ายแปลกใหม่ – บางโต๊ะอาจมีการจ่ายที่ระบุว่า 6:5 ซึ่งเป็นอัตราที่ไม่ได้กำไรมากนัก ในกรณีนี้หากคุณวางเดิมพัน 100 บาท คุณจะได้รับเพียง 120 บาทเท่านั้น
นอกจากนี้ยังมีประเภทของการจ่ายเพิ่มเติมเช่น payouts for insurance bets การจ่ายเงินสำหรับการเดิมพันประกันภัย ซึ่งอัตราจ่ายจะเป็น 2:1 หากเจ้ามือมีแบล็คแจ็ค
หรือ early payout bets ที่คุณสามารถรับเงินรางวัลก่อนที่เกมจะสิ้นสุด หากคุณคิดว่ามือของคุณไม่น่าจะชนะ
การทำความเข้าใจในเรื่องอัตราการจ่ายจะช่วยให้คุณสามารถจัดการกับการเล่นแบล็คแจ็คได้อย่างชาญฉลาดและยกระดับโอกาสในการชนะของคุณ จำเป็นที่คุณควรมองหาโต๊ะแบล็คแจ็คที่มีอัตราจ่ายที่ดีที่สุดเพื่อลดขอบเขตที่บ้านคาสิโนมีเหนือคุณ
อย่างไรก็ตาม คุณควรระมัดระวังการเลือกโต๊ะที่มีอัตราจ่ายที่ดูดีเกินจริง เช่นโต๊ะที่มีอัตราจ่าย 2:1 เนื่องจากอาจมีกฎเฉพาะหรือเงื่อนไขที่ทำให้เกมท้าทายมากขึ้น
การศึกษากฎและอัตราการจ่ายของเกมในแต่ละโต๊ะก่อนที่จะเล่นจึงเป็นสิ่งจำเป็นมากที่สุดเพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะได้รับผลตอบแทนที่ยุติธรรมและสมเหตุสมผล.
ไฮโลออนไลน์ (Sic Bo)
วิธีการเดิมพัน ไฮโลออนไลน์ (Sic Bo)
ไฮโลออนไลน์ หรือเรียกอีกชื่อว่า Sic Bo เป็นเกมพนันที่ใช้ลูกเต๋าในการเล่น โดยมีวิธีการเดิมพันที่หลากหลาย ตามข้อมูลที่ได้จากแหล่งข้อมูลต่างๆ ดังนี้:
- การเริ่มเกม: ผู้เล่นเข้าสู่หน้าเกมและเลือกวิธีการวางเดิมพันภายในระยะเวลาที่กำหนดก่อนที่เจ้ามือจะทำการเขย่าลูกเต๋า
- ชนิดของการเดิมพัน: เลือกชิปและวางเดิมพันบนตัวเลือกที่คุณต้องการ มีหลายประเภทเช่น เต็งเลข, สูง-ต่ำ, คู่-คี่, ผลรวมของลูกเต๋า เป็นต้น
- เทคนิคการเล่น: สามารถเลือกใช้กลยุทธ์หรือเทคนิคที่หลากหลาย เช่น การเดิมพันแบบสูง/ต่ำ ซึ่งมีความเสี่ยงต่ำและโอกาสชนะใกล้เคียง 50-50
- การยืนยันเดิมพันและการยกเลิก: หลังจากวางเดิมพันแล้วให้ทำการยืนยันการเดิมพันหรือสามารถยกเลิกเดิมพันได้หากยังไม่ถึงเวลาที่เจ้ามือเขย่าลูกเต๋า
- อัตราการจ่าย: ต่างกันไปตามประเภทการเดิมพัน เช่น การเดิมพันเต็งเลขอาจจะมีอัตราจ่าย 1:1 หรืออาจมีการจ่ายหลายเท่าหากทายลูกเต๋าออกมาได้ตรงกับที่เราแทงและมีหลายลูก
- การติดตามผล: เมื่อเจ้ามือได้ทำการเขย่าลูกเต๋าเสร็จสิ้น สามารถดูผลที่ออกมาและตรวจสอบว่าการเดิมพันของคุณนั้นชนะหรือไม่
อัตราจ่ายมีกี่ประเภท ไฮโลออนไลน์ (Sic Bo)
เกมไฮโลออนไลน์นั้นมีอัตราจ่ายที่หลากหลาย และแต่ละเว็บไซต์การพนันอาจมีการกำหนดอัตราจ่ายที่แตกต่างกันเล็กน้อย แต่โดยทั่วไปแล้ว มีชนิดของการเดิมพันและอัตราจ่ายที่พบได้ทั่วไปดังนี้:
- การเดิมพันแบบเลขเดี่ยว (One Number): หากลูกเต๋ามีเลขที่คุณเลือกออกไป 1 ลูก จะจ่าย 1 ต่อ 1; 2 ลูก จ่าย 2 ต่อ 1; 3 ลูก จ่าย 16 ต่อ 1
- การเดิมพันแบบดอมิโน่ (Domino): เมื่อมีตัวเลข 2 ตัวที่คุณเลือกออกมาบนลูกเต๋าสองลูก อัตราจ่ายคือ 6 ต่อ 1
- การเดิมพันแบบเฉพาะคู่ (Specific Double): ถ้าลูกเต๋ามีตัวเลขคู่ที่คุณเลือกออกมา อัตราจ่ายคือ 11 ต่อ 1; หากออกเป็นตัวเลขคู่นั้นบนทุกลูกจะจ่าย 31 ต่อ 1
- การเดิมพันแบบเฉพาะไตรภาค (Specific Triple): อัตราจ่ายอยู่ที่ 208 ต่อ 1 สำหรับไตรภาคเฉพาะ
- การเดิมพันแบบไตรภาคใด ๆ (Any Triple): อัตราจ่ายคือ 34 ต่อ 1 หากลูกเต๋าทั้งสามออกเป็นหน้าเดียวกันทุกลูก
- การเดิมพันแบบสูง/ต่ำ (Big, Small): การเดิมพันที่ผลรวมของลูกเต๋าอยู่ระหว่าง 11 ถึง 17 ขึ้นไปจะถือว่าชนะสำหรับแบบ “สูง” และระหว่าง 4 ถึง 10 สำหรับแบบ “ต่ำ” อัตราจ่ายคือ 1 ต่อ 1
อัตราจ่ายอื่นๆ ที่น่าสนใจอาจรวมถึงการเดิมพันผลรวมของแต้มที่ลูกเต๋าออกมาเท่ากับจำนวนเฉพาะที่ผู้เล่นเลือก เช่น แต้มรวมเป็น 4 จะจ่าย 50 ถึง 69 ต่อ 1 ขึ้นอยู่กับคาสิโน
โปรดตรวจสอบกับเกมไฮโลออนไลน์ที่คุณเลือกเล่นเพื่อดูอัตราจ่ายที่แน่นอนสำหรับที่นั่น เนื่องจากอาจมีความแตกต่างเล็กน้อยไปจากข้อมูลที่นำเสนอที่นี่.
ป๊อกเด้ง (Pok Deng)
วิธีการเดิมพัน (Pok Deng)
ป๊อกเด้งเป็นเกมไพ่ที่นิยมอย่างมากในประเทศไทย โดยมีเป้าหมายในการเล่นคือการมีมือไพ่ที่ค่าหลักหนึ่งหรือแต้มที่สามารถเอาชนะเจ้ามือได้ ซึ่งจะต้องคำนึงถึงคู่ไพ่, เซ็ตสามใบที่เหมือนกัน และลักษณะไพ่ที่เหมือนกันด้วย
ต่อไปนี้คือขั้นตอนการเดิมพันป๊อกเด้ง:
- วางเดิมพัน – การเริ่มเล่นเกมป๊อกเด้งจะเริ่มจากการที่ผู้เล่นทุกคนวางเดิมพัน ซึ่งสามารถใช้เงินจริงหรือสิ่งของอื่นๆ เช่น ขนม, ชิป, หรือเครื่องดื่ม เป็นสิ่งที่ใช้วางเดิมพันได้
- แจกไพ่ – หลังจากวางเดิมพันแล้ว เจ้ามือจะทำการสับไพ่และแจกไพ่สองใบให้กับผู้เล่นทุกคน โดยสิ้นสุดที่เจ้ามือเป็นคนสุดท้าย
- ตัดสินใจว่าจะจั่วหรือไม่ – ผู้เล่นแต่ละคนมีโอกาสเลือกว่าจะจั่วไพ่เพิ่มหนึ่งใบมาเป็นไพ่ใบที่สามหรือจะยืนเพื่อรักษาไพ่ในมือเดิม
- เปรียบเทียบไพ่ – เจ้ามือจะเปรียบเทียบไพ่ของตนเองกับไพ่ในมือของผู้เล่นที่เลือกเปิดเผยไพ่ และอาจจะเลือกจั่วไพ่เพิ่มเติมก่อนที่จะทำการเปรียบเทียบกับไพ่ในมือของผู้เล่นที่เหลือ
ป๊อกเด้งเป็นเกมที่เล่นเร็วและสิ้นสุดได้ในเวลาไม่นาน ดังนั้นผู้เล่นควรเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการวางเดิมพันในแต่ละรอบ และกฎกติกาอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามการตกลงของผู้เล่นในแต่ละโต๊ะ
อัตราจ่ายมีกี่ประเภท (Pok Deng)
อัตราจ่ายในเกมไพ่ป๊อกเด้ง เกมไพ่ป๊อกเด้งเป็นเกมไพ่ที่มีอัตราจ่ายหลายประเภทตามกฎการเล่นและชุดไพ่ที่ได้รับ
ต่อไปนี้คืออัตราจ่ายของเกมไพ่ป๊อกเด้ง:
- ป๊อกเก้า และ ป๊อกแปด 2 เด้ง: อัตราจ่าย 1:2 ซึ่งหมายความว่าหากชนะด้วยชุดไพ่ป๊อกเก้าหรือป๊อกแปดที่มี 2 เด้งหรือตัวคูณ, ผู้เล่นจะได้รับเงินเดิมพันคืนสองเท่า
- ป๊อกเก้า และ ป๊อกแปด ไม่มีเด้ง: อัตราจ่าย 1:1 เมื่อชนะด้วยชุดไพ่ป๊อกเก้าหรือป๊อกแปดที่ไม่มีเด้ง
- ไพ่สามเหลือง: อัตราจ่าย 1:3 ซึ่งหมายความว่าผู้เล่นจะได้รับเงินเดิมพันคืนสามเท่าหากชนะด้วยชุดไพ่สามเหลือง
- ไพ่ตอง: อัตราจ่าย 1:5 หากผู้เล่นชนะด้วยชุดไพ่ตอง, จะได้รับเงินเดิมพันคืนห้าเท่า
- สเตรทฟรัช: อัตราจ่าย 1:5 ชุดไพ่ที่มีสามใบเรียงกัน ได้แก่ AKQ หรือ KQJ ไม่ว่าจะเป็นไพ่ดอกเดียวกันหรือไม่ก็ตาม
การรู้อัตราจ่ายเป็นส่วนสำคัญในการเล่นเกมไพ่ป๊อกเด้ง เพราะมันเป็นปัจจัยหลักที่จะช่วยกำหนดผลตอบแทนที่ผู้เล่นจะได้รับเมื่อชนะเจ้ามือ. อย่างไรก็ตาม ความเข้าใจในกติกาและการจัดการแบ๊งค์ของผู้เล่นก็มีความสำคัญเช่นกันในการสร้างความได้เปรียบและเพิ่มโอกาสในการชนะเกม
ความน่าเชื่อถือของ UFA CASINO
UFA Casino คือหนึ่งในเว็บพนันออนไลน์ที่มีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับว่าเป็นเว็บที่คุ้มค่าและมีความน่าเชื่อถือในวงการเว็บพนันออนไลน์
UFA Casino เป็นเว็บที่มีความหลากหลายของเกมคาสิโน ไม่ว่าจะเป็นเกมสล็อตที่มีกราฟฟิกสวยงาม ไปจนถึงเกมโต๊ะเช่นแบล็คแจ็ค รูเล็ต และไพ่ป๊อกเด้ง
ด้านการบริการลูกค้า ทาง UFA Casino มีทีมงานมืออาชีพที่พร้อมให้คำปรึกษาและแก้ไขปัญหาให้กับลูกค้าทุกคนอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการฝาก-ถอนเงินหรือปัญหาทางเทคนิค ทำให้ผู้เล่นได้รับการดูแลอย่างดี
ในแง่ของความโปร่งใสและความเป็นธรรม บริษัทได้ให้ความใส่ใจในด้านเงื่อนไขและข้อกำหนดของโปรโมชั่น ทำให้ผู้เล่นมั่นใจและมีความสบายใจในการเล่น
นอกจากนั้น UFA Casino ยังมีระบบการทำธุรกรรมที่สะดวกและรวดเร็วผ่านระบบออโตเมติก ซึ่งช่วยให้ผู้เล่นสามารถฝากและถอนเงินได้โดยไม่ต้องผ่านเอเย่นต์ บุคคลที่สาม ทำให้เพิ่มความมั่นใจและช่วยให้ผู้เล่นมีอิสระมากขึ้นในการจัดการกับบัญชีเล่นของตัวเอง
โดยรวมแล้ว UFA Casino ได้รับการรีวิวว่าเป็นเว็บคาสิโนที่มีชื่อเสียงดีและมีความเชื่อถือสูง ตามที่ได้รับการกล่าวถึงจากแหล่งข้อมูลต่างๆ
เหล่านี้บ่งชี้ว่าเว็บ UFA Casino เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ชื่นชอบพนันออนไลน์และต้องการความปลอดภัยตลอดจนความน่าเชื่อถือในการเดิมพันของตน.
คำแนะนำก่อนเล่น UFA Casino
ก่อนที่คุณจะเริ่มเล่นที่ UFA Casino มีคำแนะนำที่สำคัญซึ่งจะช่วยให้คุณมีประสบการณ์ที่ดีในการเล่นเกมคาสิโนออนไลน์:
- เลือกเว็บไซต์ที่เชื่อถือได้
สำคัญที่สุดคือต้องเลือกเว็บไซต์ที่มีความน่าเชื่อถือ, มีชื่อเสียง และมีระบบความปลอดภัยที่ดี โดยควรตรวจสอบใบอนุญาตและมาตรการรักษาความปลอดภัยของเว็บไซต์นั้น ๆ ก่อนตัดสินใจสมัครสมาชิกเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกโกง
นอกจากนี้ การที่มีหลายช่องทางการติดต่อเช่นโทรศัพท์, แชทเว็บไซต์, Line ก็ถือเป็นจุดเสริมความมั่นใจเช่นกัน
- เข้าใจกฎกติกาและวิธีการเล่น
ประการที่สองคือการเข้าใจกฎและคำแนะนำของแต่ละเกมใน UFA Casino ซึ่งจะทำให้คุณสามารถเข้าร่วมเล่นได้อย่างง่ายดายและลดความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นได้
การศึกษากติกาและเทคนิคของเกมต่างๆ จะช่วยให้คุณสนุกไปกับการเดิมพันมากยิ่งขึ้นโดยไม่ต้องเสี่ยงกับความไม่แน่นอน
- วางแผนการเงิน
กำหนดงบประมาณสำหรับการเล่นพนันและจัดสรรเงินอย่างรอบคอบ คุณควรเลือกเดิมพันในระดับที่คุณสามารถเสียได้และไม่ควรเดิมพันเกินกว่าที่คุณสามารถจะจัดการได้ การกำหนดงบประมาณจะช่วยให้คุณมีสติและไม่เสียเงินเกินตัว
- ใช้โปรโมชั่นที่สามารถเข้าถึงได้
หากเว็บไซต์เสนอโปรโมชั่นหรือโบนัสให้ใช้ประโยชน์จากข้อเสนอเหล่านั้นเพื่อเพิ่มโอกาสในการเล่นและชนะ แต่อย่าลืมอ่านเงื่อนไขและข้อกำหนดของข้อเสนออย่างละเอียดเพื่อเข้าใจถูกต้องก่อนที่จะยอมรับ
- เล่นด้วยความรับผิดชอบ
อย่าปล่อยให้เกมการพนันทำให้คุณหลงไหลจนไม่สามารถควบคุมการใช้จ่ายหรือเวลาในการเล่นได้ สำคัญที่จะต้องเล่นด้วยความสนุกและรับผิดชอบ โดยมีการหยุดพักหรือตั้งเวลาในการเล่นอย่างเหมาะสม
ด้วยแนวทางเหล่านี้ คุณจะพร้อมที่จะสนุกกับการเล่นเกมที่ UFA Casino อย่างปลอดภัยและยั่งยืนได้แล้ว
Tags : UFA, UFA CASINO, คาสิโนออนไลน์